สอนขับรถเกียร์ออโต้

ขับรถ เรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง

ปัจจุบัน ผู้ขับขี่ส่วนใหญ่ นิยมขับรถเกียร์ออโต้ หรือเกียร์อัตโนมัติ เหตุผลง่ายๆ ก็คือ ขับง่าย ไม่ต้องคอยเปลี่ยนเกียร์บ่อยๆ เหมือนรถยนต์เกียร์ธรรมดา หรือบางคนก็เรียกว่า เกียร์แมนนวล แต่ผมเชื่อว่า คนส่วนใหญ่ที่รู้เรื่องรถ คงต้องถูกใจกับเกียร์ออโต้

บทความนี้จะมาแนะนำวิธีการขับขี่ขับรถยนต์ประเภท เกียร์ออโต้ เพื่อให้เป็นแนวทางสำหรับมือใหม่ในการขับขี่รถยนต์ทุกท่าน ประเด็นสำคัญในการขับขี่คือ เราจำเป็นจะต้องใช้ใช้งาน "เกียร์" เป็น  เพื่อให้สามารถขับขี่รถได้ในทุกๆ สภาพถนน ไม่ว่าจะเป็นทางเรียบ ขึ้นสะพาน ขึ้นหรือลงห้างสรรพสินค้าา 

นอกจากนี้ เรายังจำเป็นจะต้องกะระยะรถของเราให้ได้ เพราะถ้ากะระยะไม่ถูก ก็อาจเกิดอุบัติเหตุได้ แต่ปัจจุบันเทคโนโลยีก้าวไกล เราสามารถเลือกซื้อรถที่มีกล้องส่องด้านหลัง หรือถ้าจะมีเงินหน่อย ก็เลือกรถยนต์ที่มีกล้องรอบคันก็ได้เช่นเดียวกัน

มาเริ่มต้นเรียนรู้ "เกียร์ออโต้" กันก่อน
Gear automatic


รถยนต์แต่ละรุ่น อาจมีจำนวนเกียร์ที่แตกต่างกันไป แต่ส่วนใหญ่จะมีจำนวนเกียร์ประมาณนี้

สัญลักษณ์และความหมายของเกียร์

  • P ย่อมาจาก Parking
    หมายถึง เกียร์ที่ใช้เวลาที่เราจอดรถในที่จอดรถ  ซึ่งเกียร์ P นี้จะทำหน้าล็อคล้อไม่ให้เคลื่อนไหว แนะนำว่า เราใช้เราควรใช้คู่กับ เบรคมือ หรือรถยนต์บางคัน ก็มี เบรคเท้า 
  • R ย่อมาจาก Reverse
    หมายถึง เกียร์ถอยหลัง ใช้สำหรับถอยหลัง ไม่วาจะเป็นการถอยรถเข้าที่จอด รถยนต์ส่วนใหญ๋จะมีกล้องมองหลัง เพื่อเพิ่มความสะดวกในการขับขี่ รถยนต์คันไหนไม่มี สามารถหาซื้อติดเพิ่มได้
  • N ย่อมาจาก Neutral
    หมายถึง เกียร์ว่าง ใช้สำหรับเวลาจอดรถในห้างแบบชั่วคราว หรือในกรณีจอดรถซ้อนคัน  ทั้งนี้เพื่อต้องการให้รถสามารถถูกเข็นได้หรือขยับได้  กรณีจอดในช่องจอด สามารถใช้เกียร์ P แทนได้
  • D ย่อมาจาก Drive
    หมายถึง บางคนก็เรียกเรียกนี้ว่า D4  เป็นเกียร์สำหรับเดินหน้า เพื่อการขับรถแบบปกติ ทุกคนที่ต้องการให้รถเดินหน้า จะต้องปรับเกียร์มาที่ตำแหน่ง "D" เสมอ  ข้อความทราบ เวลาปรับเปลี่ยนเกียร์มาตำแหน่ง D รถจะเคลื่อนตัวเองให้อัตโนมัติ โดยไม่ต้องเหยียบคันเร่ง
  • 1 และ 2 
    หมายถึง เกียร์ 1 และ เกียร์ 2  ใช้สำหรับกรณี ขับรถยนต์ขึ้นลงเนิน ชันสูงๆ เกียร์หนึ่ง รถยนต์บางคันก็จะแสดงเป็นตัวอักษร L ย่อมาจาก Low

วิธีสตาร์ทรถยนต์ที่ถูกวิธี

การสตาร์ทรถทุกคน เราควรเปลี่ยนเกียร์เป็น "P" ก่อนเสมอ ก่อนบิดกุญแจสตาร์ท รถยนต์รุ่นใหม่บางรุ่น จะใช้กุญแจแบบไร้สาย หรือกดปุ่มแทนการบิดกุญแจเพื่อสตาร์ทรถ  การออกตัวสำหรับรถเกียร์ออโต้ เปลี่ยนเกียร์เป็น "D" และปล่อยเท้าออกจากเบรค รถก็จะเคลื่อนออกไปช้าๆ แนะนำว่า อย่าเพิ่งเหยียบคันเร่งมากเกินไป เพราะรถอาจพุ่งไปข้างหน้า และอาจเกิดอันตรายได้ง่าย

Car gear
การหยุดรถ ก็เพียงแค่ค่อยๆ เหยียบเบรค รถก็จะชลอให้เอง โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนเกียร์แต่อย่างใด กรณีรถติด แนะนำว่า ให้เหยียบเบรคข้างไว้เช่นกัน ไม่จำเป็นต้องเปลียนเกียร์ แต่ถ้าติดนานๆ จะเปลี่ยนเป็นเกียร์ "N" บ้าง ก็สามารถทำได้เช่นกัน

วิธีดับเครื่องยนต์

ก่อนดับเครื่องยนต์ ควรแน่ใจว่าา ได้ทำการเปิดแอร์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างวิทยุก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้น ถ้ารถยนต์ใช้ระบบปุ่มเปิด-ปิด ให้เปลี่ยนเกียร์เป็น "P" และเหยียบเบรคเท้า หรือดึงเบรคมือ ซึ่งแล้วแต่รถแต่ละรุ่น จากนั้น ก็กดปุ่มดับเครื่องยนต์ หรือบิดกุญแจมาที่ตำแหน่ง Lock นั่นเอง


Share on Google Plus

About OneNeung

This is a short description in the author block about the author. You edit it by entering text in the "Biographical Info" field in the user admin panel.
    Blogger Comment
    Facebook Comment

0 comments:

Post a Comment