คุณขับรถดด้วยความเร็วเฉลี่ยเท่าใด
ด้วยเหตุผลต่างๆ นานา ในเรื่องการขับรถด้วยความเร็วที่แตกต่างกัน บางคนขับรถช้า บางคนขับรถปานกลาง บางคนขับรถเร็วมาก ส่วนตัวจะขับรถด้วยความเร็วปานกลาง ยกเว้นกรณีขึ้นทางด่วน และถนนโล่ง ก็จะขับรถเร็วขึ้น โดยเน้นสังเกตุคนขับรถตามมา มาอยู่ในระยะไหนความเร็วมีผลโดยตรงกับระยะเบรค
หลายๆ คน คงเคยได้ยินได้เห็นโฆษณาประชาสัมพันธ์กันมาบ้างแล้ว กับเรื่องการขับรถเร็ว ซึ่งยิ่งเร็วมากในระดับ 100 กิโลเมตรขึ้นไป จะมีผลกับระยะเบรคมาก เพราะต้องใช้ระยะเบรคมากถึง 80 เมตร ถ้ารถใหญ่มากกว่าปกติ ก็จะมีระยะเบรคที่เพิ่มขึ้นอีกมากด้วยเช่นกัน ส่งผลโดยตรงกับความปลอดภัยของผู้ขับขี่ และผู้โดยสารไม่เพียงเท่านั้น ก็ขับรถเร็วเกินปกติ จะมีผลกับน้ำมันด้วย เพราะจะทำให้สิ้นเปลืองน้ำมัน โดยใช่เหตุ แล้วแต่ว่า ความเร็วในการขับรถยนต์แค่ไหน ถึงจะประหยัดน้ำมัน
ส่วนตัวได้มีการทดสอการขับรถ ในสภาพถนนที่มีการจราจรต่างกัน ถ้ารถติด รับประกัน กินน้ำมันมาก แต่ถ้ารถวิ่งได้สะดวก และเราควบคุมความเร็วให้พอเหมาะ รับประกันประหยัดน้ำมันได้มาก
วิธีคิดว่า รถยนต์ของเรา ประหยัดน้ำมันได้มากน้อยแค่ไหน
ปกติ จะใช้วิธีการคิดแบบทั่วไป คือ กี่กิโลลิตร หมายถึง ระยะทางที่ขับได้ ต่อการใช้น้ำมัน หนึ่งลิตร ตัวอย่างเช่น
- ขับรถได้ 10 กิโลลิตร หมายถึง ขับรถได้ระยะทาง 10 กิโลเมตร น้ำมันหมดไป 1 ลิตร
แล้วอย่างนี้ จะมีวิธีการตรวจสอบอย่างไร
โดยทั่วไป รถยนต์ทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ จะมีแจ้งรายละเอียดอัตราสิ้นเปลืองของพลังงานให้แทบทั้งสิ้น รถยนต์เล็กย่อมกินน้ำมันน้อยกว่ารถยนต์ขนาดใหญ่ ถ้าจะทดสอบการขับรถของตัวเอง ก็สามารถทำได้ไม่ยาก ให้ดูที่ โดยปกติ รถยนต์ทุกรุ่น จะมี ไมล์บอกระยะทาง A, B เพื่อใช้สำหรับการตรวจสอบระยะทางในการขับรถ รวมทั้งสามารถเปรียบเทียบได้ รถยนต์บางรุ่น จะมีตัวเลขแจ้งว่า ขณะนี้เราขับรถกินน้ำมันไปกี่กิโลลิตรด้วยเช่นกัน
สำหรับรถยนต์บางรุ่น จะมีหน้าจอ แสดงข้อมูลการบันทึกในการขับขี่ แถมมีการเปรียบเทียบให้อีกด้วย ซึ่งจะสะดวกมากในการตรวจสอบการกินน้ำมันในแต่ละการเดินทางของเรา
0 comments:
Post a Comment